เลือกบล็อกลม (Impact Wrench) ยังไง? ให้ตรงตามลักษณะการใช้งาน

บล็อกลม (Impact Wrench) คือเครื่องมือช่างที่ใช้พลังงานลมในการสร้างแรงบิดแบบกระแทกเพื่อขันและคลายน็อตให้แน่นหนา ช่วยให้งานที่ต้องใช้แรงมากเป็นเรื่องง่ายและรวดเร็วยิ่งขึ้น หัวใจสำคัญของบล็อกลมคือ “กลไกการกระแทก (Impact Mechanism)” ซึ่งเป็นตัวกำหนดประสิทธิภาพ, ความทนทาน, และลักษณะการใช้งานของบล็อกลมแต่ละรุ่น

ปัญหาของบล็อคลมที่ช่างพบบ่อย

  • ปัญหาแรงบิดไม่พอ: บล็อกลมบางรุ่นมีแรงบิดไม่เพียงพอสำหรับขันน็อตที่แน่นมาก ทำให้ต้องใช้เครื่องมืออื่นช่วยหรือใช้เวลานาน
  • แรงสะบัดและเสียงดัง: บล็อกลมบางระบบ (โดยเฉพาะ Rocking Dog) มีแรงสั่นสะเทือนและเสียงที่ดังมาก ทำให้ช่างเหนื่อยล้าและรู้สึกไม่สบายขณะใช้งาน
  • การรั่วของลม: ซีลยางหรือโอริงภายในเครื่องอาจเสื่อมสภาพ ทำให้ลมรั่วและกำลังตก
  • ความทนทาน: บล็อกลมบางรุ่นมีโครงสร้างไม่แข็งแรงพอ ไม่ทนทานต่อการใช้งานหนักและอาจพังง่าย ทำให้ต้องเสียค่าซ่อมบำรุงบ่อย
  • ปัญหาเรื่องลมและน้ำ: หากแหล่งจ่ายลมมีน้ำหรือสิ่งสกปรกปนเปื้อน จะทำให้กลไกภายในของบล็อกลมเสียหายและเกิดสนิมได้
  • รับประกันไม่ครอบคลุม: ซ่อมแพง ซ่อมช้า หรือไม่มีอะไหล่ให้เปลี่ยน

ระบบของบล็อกลมที่นิยมในปัจจุบัน

ในท้องตลาดมีระบบกลไกการกระแทกหลักๆ อยู่หลายแบบ โดยแต่ละแบบมีข้อดี-ข้อเสียแตกต่างกันไป ดังนี้

ระบบค้อนคู่ (Twin Hammer) 🔨🔨

เป็นกลไกที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในบล็อกลมขนาดกลาง (เช่น 1/2 นิ้ว) ประกอบด้วยค้อนสองตัวที่ทำงานพร้อมกัน

  • ข้อดี: ให้แรงบิดสูง, มีความสม่ำเสมอ, แรงสั่นสะเทือนต่ำ, กินลมน้อยกว่าระบบอื่นในขนาดที่เท่ากัน และมีความทนทานสูง
  • ข้อเสีย: โครงสร้างซับซ้อนกว่า หากประกอบผิดพลาดอาจทำให้เครื่องเสียหายได้ และมีราคาค่อนข้างสูง
  • เหมาะสมกับ: งานซ่อมบำรุงรถยนต์, งานในไลน์ประกอบอุตสาหกรรม, และงานที่ต้องการแรงบิดสูงอย่างต่อเนื่อง

Recommended products

Shopping Cart